หน้าเว็บ

น.ส. ปาริฉัตร หยุ่นเฮง รหัส 216





แนวความคิดและทฤษฎีทางการบริหาร

พัฒนาการทางการบริหาร

ยุคคลาสสิค (The classical approaches)

· การบริหารงานเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management)

· หลักการบริหาร (Administrative Principles)

· องค์การแบบราชการ (Bureaucratic organization)

การบริหารเชิงมนุษยสัมพันธ์ (Human resource approaches)

การบริหารเชิงปริมาณ (The quantitative or management science approaches)

การบริหารสมัยใหม่ (The modern approaches)

ทฤษฎีการจัดการแบบดั้งเดิม (Classical Theory)

ทฤษฎีการจัดการแบบดั้งเดิม เป็นทฤษฎีที่มุ่งให้ความสนใจและให้ความสำคัญเกี่ยวกับความสำเร็จของงาน โดยไม่สนใจจิตใจของมนุษย์ มองมนุษย์เป็นเครื่องจักร การบริหารงานมีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว พนักงานจึงทำงานอย่างไม่มีอิสระ ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้จึงไม่มีความคิดเห็นที่หลากหลาย และการทำงานขององค์การจะบรรลุเป้าหมายและพนักงานจะปฏิบัติงานได้ดีขึ้นเมื่อมีการข่มขู่

1. การบริหารงานเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) มุ่งงานเป็นหลัก

หลักการ 1.ให้ความสำคัญต่อ งาน มากกว่าคน

2. ใช้วิธีให้คนปรับตัวให้เข้ากับงานที่กำหนดวิธีทำเอาไว้แล้ว

2. ทฤษฎีทางการบริหาร

ได้แบ่งเป็น 5 ประการ หรือหลักการบริหารที่เรียกว่า POCCC ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การวางแผน (Planning) คือ การกำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานไว้ล่วงหน้า

การจัดองค์การ (Organizing) คือ เป็นการจัดโครงสร้างของสายการบังคับบัญชา

การสั่งการ (Commanding) คือ การคอยสอดส่องดูแลและ สั่งการให้พนักงานปฏิบัติงานตาม

การประสานงาน (Coordinating) คือ การร่วมมือร่วมใจกันทำงานของพนักงานภายในองค์การ

การควบคุม (Controlling) คือ การตรวจสอบและติดตามผลการปฏิบัติงาน

3. ทฤษฎีระบบราชการ (Bureauracy Theory)

· สายการบังคับบัญชา (Hierarchy)

· มีการแบ่งงานตามความถนัดเฉพาะด้าน (Division of work)

· กฎระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีการปฏิบัติงาน (Rules Regulation and Procedures)

· ไม่ยึดหลักความสัมพันธ์ส่วนตัว (Impersonalality)

· ประชาธิปไตย (Democracy)



แนวคิดการบริหารจัดการเชิงปริมาณ

กลุ่มทฤษฎีนี้เน้นแนวคิดของการบริหารที่สนใจทางด้านจำนวน การนำเอาข้อมูลสถิติมาใช้ในการตัดสินใจ

ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ

วิทยาการจัดการ (Management Science)

การจัดการปฏิบัติการ (Operation Management)

ระบบสารสนเทศการจัดการ (Management Information System: MIS)



แนวความคิดและวิธีการของการบริหารแบบมนุษย์สัมพันธ์(Human Relations) มุ่งถึงคนเป็นหลัก

หลักการ จะต้องให้ความสำคัญต่อ คนผู้ทำงาน มากกว่า งาน ที่จะทำให้คนทำ

ต้องหาวิธีให้คนมีความพอใจ มีอิสระที่คิดจะริเริ่ม เพื่อสร้างสรรค์ในทางต่าง ๆที่เขาควรจะมีสิทธิเลือกวิธีทำงานของตนเองบ้าง หรือนั่นก็คือฝ่ายจัดการควรจะพิจารณาปรับหรือจัดงานให้เหมาะสม และเป็นที่พอใจแก่คนที่จะทำงานนั้น

แนวความคิดเกี่ยวกับวิธีการบริหารสมัยใหม่

1.การบริหารแบบการตัดสินใจ (Decisional Approach) การบริหารคือการตัดสินใจ องค์การจะถูกถือเสมือนหนึ่งว่าเป็นหน่วย ของการตัดสินใจ

ผู้บริหารคือผู้ที่ต้องทำการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ

2.การบริหารเชิงระบบ (System Approach)

การบริหารเป็นลักษณะระบบอย่างหนึ่ง มีผู้บริหารมาทำงานในหน้าที่ต่าง ๆของระบบนี้

ส่วนต่าง ๆของระบบอยู่ในสถานะที่เคลื่อนไหวได้แต่ละส่วนต่างมีคุณสมบัติและความสามารถเฉพาะเมื่อมารวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจะช่วยเคลื่อนไหวไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

3. การบริหารเชิงกระบวนการ (Process Approach) หน้าที่ในการบริหารงานต่าง ๆมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันใกล้ชิดเป็นกระบวนการ (Process) ผู้บริหารจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยวิธีกระทำเป็นทีละขั้นตอน (Step by Step) ที่ต่อเนื่องหมุนเวียนกันไปอย่างเป็นระเบียบโดยไม่ขาดขั้นตอนกัน ส่วนต่างๆของงานบริหารที่เกี่ยวเนื่องต่อกันนั้นจะไม่ขาดตอนจากกัน หากแต่ จะมีความต่อเนื่อง และสอดคล้องกันอย่างมีระเบียบ การบริหารงานตามหน้าที่จะดำเนินไปเป็นวัฏจักรหมุนเวียนเป็นกระบวนการเรื่อยไป







4.การบริหารตามสถานการณ์ (Situational Approach) Fred E. Fiedler (1967)

เน้นให้ผู้บริหารพิจารณาความแตกต่างในหน่วยงาน เช่น ความแตกต่างระหว่างบุคคล ความแตกต่างระหว่างระเบียบกฎเกณฑ์ วิธีการ กระบวนการ และการควบคุมงาน ความแตกต่างระหว่างความสัมพันธ์ของบุคคลในองค์กร ความแตกต่างระหว่างเป้าหมายการดำเนินงานขององค์การ

การบริหารจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ผู้บริหารจะต้องพยายามวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดีที่สุด

เป็นการผสมผสานแนวคิดระหว่างระบบปิดและระบบเปิด และยอมรับหลักการของทฤษฎีระหว่างทุกส่วนของระบบจะต้องสัมพันธ์และมีผลกระทบซึ่งกันและกัน สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจและรูปแบบการบริหารที่เหมาะสม

คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความต้องการของบุคคลในหน่วยงานเป็นหลักมากกว่าที่จะแสวงหาวิธีการอันดีเลิศมาใช้ในการทำงาน โดยใช้ปัจจัยทางด้านจิตวิทยาในการพิจารณาด้วย

การบริหารยึด “ตัวสถานการณ์” หรือชุดเหตุการณ์ที่ซึ่งมีอิทธิพล ต่อองค์การมากที่สุด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง มุ่งเน้นถึงความสำคัญของ “การคิดตามสถานการณ์” (Situational thinking) ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารเกิดความเข้าใจ ได้ว่าภายใต้สถานการณ์เฉพาะนั้นๆ ผู้บริหารควรจะใช้ เทคนิคการบริหารอะไร จึงจะทำให้องค์การสามารถบรรลุผลสำเร็จมากที่สุดได้ การบริหารจะไม่ยึดติดกับ แนวคิด ทฤษฎีหรือหลักการใด หลักการหนึ่งโดยเฉพาะ แต่จะเลือกสรรวิธีการที่ดีที่สุด เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ผู้บริหารอาจจะใช้วิธีการ หลาย ๆอย่างผสมผสานกันในการ บริหารไปพร้อม ๆกันทั้งนี้แล้วแต่ “ตัวสถานการณ์” และปัจจัยความพร้อมในด้านต่าง ๆ

http://www.slideshare.net/guest3d68ee/ss-presentation

ไม่มีความคิดเห็น: