หน้าเว็บ

นางสาววรางคณา ศิลรักษ์ 5130125401211 การจัดการทั่วไปรุ่น 19

ทฤษฎีภาวะผู้นำ

5.1 ผู้นำตามทฤษฎีพฤติกรรม

การแบ่งประเภทของผู้นำตามแนวคิดทฤษฎีพฤติกรรมผู้นำได้แบ่งประเภทผู้นำได้หลายวิธี แบ่งแยกตามลักษณะที่เป็นเชิงพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ ดังนี้

5.1.1 การแบ่งประเภทของผู้นำตามลักษณะของการปฏิบัติงาน มีดังนี้

ผู้นำตามกฎหมาย ได้แก่ ผู้นำที่เกิดขึ้นตามกฎหมาย หรือระเบียบที่กำหนด เช่น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง ฯลฯ โดยกฎหมายกำหนดคุณสมบัติของแต่ละตำแหน่งเอาไว้

ผู้นำที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติพิเศษมีบุคลิกลักษณะหรือความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ซึ่งเป็นได้ทั้งในทางที่ดีหรือเลว เช่น หัวหน้านักเลง หัวหน้าทีมกีฬา เป็นต้น

ผู้นำในลักษณะที่เป็นสัญลักษณ์ เช่น พระมหากษัตริย์เป็นผู้นำของพระราชวงศ์หรือของประเทศชาติที่มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้นำ

5.1.2 การแบ่งประเภทของผู้นำตามลักษณะพฤติกรรม

จอห์น ฟลานาแกน (John C. Flanagan) ได้ศึกษาลักษณะพฤติกรรมของหัวหน้า และได้แบ่งผู้นำตามลักษณะออกได้เป็น 3 ประเภท คือ

ผู้นำที่มุ่งแต่งานเป็นสำคัญ มีลักษณะพฤติกรรมแสดงออกเป็นเผด็จการ

ผู้นำที่ตระหนักถึงผลงานและความพอใจของทุกฝ่าย เป็นผู้ที่มีพฤติกรรมแบบประชาธิปไตย

ผู้นำที่ถือว่าประสิทธิภาพของการทำงานสูงได้เนื่องจากน้ำใจ ผู้นำประเภทนี้ถือว่าน้ำใจหรือสิ่งตอบแทน เป็นสิ่งสำคัญที่กระตุ้นให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูง

นางสาวศิรินทรา เรืองรอง การจัดการทั่วไป 5210125401026



http://women.thaiza.com

เว็ไซต์ที่เกี่ยวกับเคล็ดลับสุขภาพ



ชวนคนรักลดอ้วนด้วยข้าวโอ๊ต ตอนนี้มีกระแสเรื่องข้าวโอ๊ตช่วยลดความอ้วนเกิดขึ้น ทำให้หลายคนโดยเฉพาะสาวๆ ให้ความสนใจกันมากเลยค่ะ แต่ก่อนที่เราจะทำตามด้วยการรับประทานยข้าวโอ๊ตเป็นอาหารมื้อเช้าอย่างที่หลายๆ คนลองทำมา ลองมาอ่านข้อมูลกันก่อนว่า ข้าวโอ๊ตนั้นมีดีอย่างไร และช่วยลดความอ้วนได้จริงๆ เหรอ

ข้าวโอ๊ต (Oat) อาหารที่ชาวยุโรปนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้ามานานแล้ว เพราะมีคุณค่าทางอาหารมากมาย โดยเฉพาะแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต ส่วนรำข้าวโอ๊ต เป็นเส้นใยที่ได้จากการขัดสีข้าวโอ๊ตให้ขาว หรือเส้นใยบางๆ ที่ห่อหุ้มเมล็ดข้าวโอ๊ตนั่นเอง รำข้าวโอ๊ตนี่ให้เส้นใยอาหารสูงมากค่ะ ทั้งเส้นใยชนิดที่ละลายน้ำได้ ซึ่งเส้นใยประเภทนี้ เวลาที่เรารับประทานเข้าไปแล้วจะละลายเร็วและเกาะติดกับสารอาหารโดยเฉพาะไขมัน ทำให้ไขมันและสารอาหารอื่นๆ ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและขับถ่ายออกมา จึงช่วยลดไขมันและโคเลสเตอรอลในเลือดได้ ส่วนเส้นใยอีกชนิดในข้าวโอ๊ต คือเส้นใยชนิดที่ไม่ละลายน้ำ เส้นใยชนิดนี้มีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำค่ะ จะดูดซับน้ำใว้กับตัวเองทำให้พองตัว เมื่อรับประทานเข้าไปจึงจะทำให้ปริมาตรของสารที่ต้องการขับถ่ายเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้เร็วขึ้น จึงช่วยป้องกันและรักษาท้องผูกได้ การรับประทานข้าวโอ๊ตจึงมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะรำข้าวโอ๊ต ที่เป็นอาหารสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำตาลและไขมันในเลือด อย่างคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่ก็ต้องระวังในการรับประทานด้วย เพราะอาจจะทำให้สารอาหารและวิตามินที่จำเป็นบางอย่างในอาหารถูกขับถ่ายออกไปด้วย

รู้ข้อมูลกันแล้ว ก็ได้คำตอบนะคะว่าข้าวโอ๊ตสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ ทีนี้เรามาชวนคนรัก หรือคนรอบข้างที่ต้องการตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักให้มาลองรับประทานข้าวโอ๊ตกันดีกว่า แต่ก็ต้องรับประทานอย่างเข้าใจค่ะว่า เราจะรับประทานข้าวโอ๊ตอย่างเดียวเลยไม่ได้ ต้องรับประทานอาหารอื่นด้วยเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยมื้อที่เหมาะที่สุด คือมื้อเช้า หรือรับประทานเป็นอาหารว่างแบบเบาๆ ด้วยการเติมน้ำร้อนในข้าวโอ๊ต หรือนำมาต้ม แล้วเติมผลไม้กับเมล็ดพืช อย่างลูกเกด เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง โดยข้าวโอ๊ตจะช่วยให้อิ่มนานขึ้น พอมื้อกลางวันความอยากอาหารก็จะน้อยลง เราก็เน้นรับประทานอาหารที่ให้โปรตีน ผักและผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ส่วนมื้อเย็นเลือกอาหารที่เบาท้องที่สุด แต่ก็ต้องมีประโยชน์ด้วย อย่างสลัดผัก ผลไม้

ที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำด้วย อ้อ…มีเคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งแถมให้ค่ะ การรับประทานข้าวโอ๊ตก่อนออกกำลังกายสัก 3 ชั่วโมง จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันเร็วขึ้น ทำให้มีแรงและออกกำลังได้มากขึ้นด้วยค่ะ

นางสาวศิรินทรา เรืองรอง การจัดการทั่วไป 5210125401026



ผู้นำที่มีความสามารถพิเศษ

คุณลักษณะเฉพาะตัวของผู้นำมีดังนี้

1.มีวิสัยทัศน์ และมีความสามารถ เข้าใจในวิสัยทัศน์

2.เป็นบุคคลที่ยอมรับความเสี่ยง

3.มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม

4.มีความไวต่อความต้องการของผู้ใต้บังคับบัญชา

5.มีพฤติกรรมที่ไม่ยึดติดสิ่งเดิมๆ

วิธีการที่ผู้นำมีความสามารถพิเศษจะมีอิทธิพลต่อผู้ตามมีแนวทางการพัฒนา 5 ขั้นตอน ดังนี้

1.ผู้นำจะต้องมีวิสัยทัศน์ และสร้างความรู้สึกให้ผู้ตามได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง จากปัจจุบันไปสู่อนาคตที่ดี

2.ผู้นำจะต้องมีการสื่อสารในสิ่งที่ตรงคาดหวังและสร้างความเชื่อมั่นส่วนตัวให้กับผู้ตามในการดำเนินงานให้สำเร็จตามที่ตนเองต้องการให้เกิดขึ้น

3.ผู้นำจะต้องสร้างความนิยมส่วนตัวและสร้างความเชื่อมั่นส่วนตัวให้เกิดขึ้นจนเกิด การสรรเสริญน่านับถือ

4.ผู้นำจะต้องมีความสามารถในการนำพาลูกน้องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการพูดหรือการกระทำให้บังเกิดผล เช่นทำงานเป็นตัวอย่างให้ผู้ตาม เลียนแบบทำตามสามารถกระตุ้นชักนำให้ผุ้ตามสามารถปฎิบัติได้

5.ผู้นำจะต้องมีการเสียสละ ทุ่มเทการกระทำ ให้กำลังใจผู้ตาม จนเกิดความมั่นใจน่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้

อ้างอิงจาก สังสรรค์ ประเสริฐศรี. พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพ. บริษัท เพียรสัน เอ็ดดูเครชั่น อินโดไชน่า จำกัด. 2548