หน้าเว็บ

การส่งบทความเกี่ยวกับการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม

ถึงนักศึกษาทุกท่านที่ยังไม่ได้ส่งบทความ ขอให้รีบส่งภายในวันเสาร์ สำหรับนักศึกษาที่เรียนวันอาทิตย์ และ สำหรับนักศึกษาภาคปกติขอให้รีบส่งภายในวันอังคารที่ 3 กค 55
บทความที่นักศึกษาจะต้องแสดงความคิดเห็น จะต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลด้วยนะคะ

3 ความคิดเห็น:

ยัยตัวร้าย*My Coffee กล่าวว่า...

วิธีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน
ผู้บริหารเชิงกลยุทธ์ควรจะระบุปัจจัยภายในบริษัทของพวกเขาที่อาจจะเป็นจุดแข็งและจุดอ่อนที่สำคัญปัจจัยเหล่านี้จะเป็นจุดแข็ง ถ้าพวกมันสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน นี่คือบางสิ่งบางอย่างที่บริษัททำหรือมีศักยภาพที่จะทำได้ดี บางสิ่งบางอย่างที่บริษัททำได้ไม่ดีหรือไม่มีความสามารถจะทำทั้งที่คู่แข่งขันของพวกเขามีความสามารถนั้นภายในการประเมินความสำคัญของปัจจัยเหล่านี้ผู้บริหารควรจะมั่นใจว่าพวกมันคือปัจจัยเชิงกลยุทธ์ภายในหรือไม่-จุดแข็งและจุดอ่อนบางอย่างที่กำหนดอนาคตของบริษัท วิธีการอย่างหนึ่งคือ การเปรียบเทียบเครื่องวัดปัจจัยเหล่านี้กับเครื่องวัด
(1) ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัท
(2) คู่แข่งขันรายสำคัญของบริษัท
(3) อุตสาหกรรมโดยส่วนรวม
ถ้าปัจจัยเหล่านี้ (เช่น สถานการณ์ทางการเงินของบริษัท) แตกต่างอย่างมากจากที่ผ่านมาของบริษัทคู่แข่งขันรายสำคัญของบริษัท หรือค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ปัจจัยเหล่านี้น่าจะเป็นปัจจัยเชิงกลยุทธ์ และควรถูกพิจารณาภายในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ผู้บริหารสามารถวิเคราะห์ปัจจัยภายในได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้ คือ กรอบข่าย 7-s การวิเคราะห์ PIMS การวิเคราะห์ลูกโซ่คุณค่า และการวิเคราะห์ตามหน้าที่
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและอุตสาหกรรม
ก่อนที่ผู้บริหารเชิงกลยุทธ์จะเริ่มกลยุทธ์ของพวกเขาขึ้นมา พวกเขาจะต้องวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเสียก่อน เพื่อการพิจารณาถึงโอกาส และ อุปสรรค การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมคือการตรวจสอบการประเมิน และการเผยแพร่ข้อมูลทางภาพแวดล้อมไปยังผู้บริหารภายในบริษัท บริษัทจะต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ เพื่อการตรวจสอบปัจจัยเชิงกลยุทธ์ที่มีผลกระทบต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของบริษัท
อ้างอิงจาก สมยศ นาวีการ. (2541). การบริหารเชิงกลยุทธ์และนโยบายทางธุรกิจ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์.ผู้จัดการ

*น.ส.อารยา อินทะสอน รหัส 5210125401039 เอกการจัดการทั่วไป ปี 4 *

Unknown กล่าวว่า...

นางสาวสุชาดา สุขวงษ์ รหัส 5210125401002 การจัดการทั่วไป
การวิเคราะห์ สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกองค์กร (SWOT)
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกองค์กรทางการศึกษา เพื่อศึกษา

แนวโน้มการพัฒนาการศึกษาให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนท้องถิ่น โดยแนวโน้มการพัฒนาการศึกษาขององค์กรทางการศึกษาต้องมีความเป็นไปได้ในการพัฒนาตามเงื่อนไขข้อจำกัดและองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการจัดการศึกษา ซึ่งได้แก่ นโยบายในการจัดการศึกษาของหน่วยงานต้นสังกัด รูปแบบการบริหารงานขององค์กรทางการศึกษา และปัจจัยทีเกี่ยวข้องอื่น

การศึกษาความต้องการของชุมชน เป็นการสำรวจความต้องการขององค์กรชุมชนที่องค์กรทางการศึกษาตั้งอยู่ความต้องการของผู้ปกครองนักเรียน
และความต้องการของชาวบ้านในชุมชนสรุปมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานเพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนการวิเคราะห์สภาพขององค์กรทางการศึกษาเพื่อกำหนด
แนวทางในการพัฒนาการศึกษา จะต้องวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ด้วย เรียกว่า SWOT Analysis ซึ่งได้แก่

Strengths - จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบ
Weaknesses - จุดอ่อนหรือข้อเสียเปรียบ
Opportunities - โอกาสที่จะดำเนินการได้
Threats - อุปสรรค หรือปัจจัยที่คุกคามการดำเนินงานขององค์การ
การวิเคราะห์ SWOT อาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เป็นการทำ Situation Analysis

เป็นการวิเคราะห์สภาพองค์การ หรือหน่วยงานในปัจจุบัน เพื่อค้นหาจุดแข็ง จุดเด่น จุดด้อย หรือสิ่งที่อาจเป็นปัญหาสำคัญในการดำเนินงานสู่สภาพที่ต้องการในอนาคต การวิเคราะห์สภาพการณ์

(Situation Analysis) วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน เพื่อให้รู้ตนเอง (รู้เรา) รู้จักสภาพแวดล้อม (รู้เขา) ชัดเจน และวิเคราะห์โอกาส-อุปสรรค เพื่อประโยชน์ในการกำหนดวิสัยทัศน์ หรือเลือกกลยุทธ์ระดับองค์กรที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการทำ Strategic Decision การทำ Strategic Decision เป็นการตัดสินใจเลือกกลยุทธ์หรือวิธีดำเนินงานที่สำคัญ ที่เป็นหลักในการปฏิบัติไปสู่สภาพที่ต้องการในอนาคตขององค์การ เพื่อการบรรลุ Vision หรือสภาพในอนาคตตามที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งเป็นการเลือกโดยคำนึงถึงสภาพในอนาคต โดยคำนึงถึงจุดที่ต้องการ โดยรู้สถานการณ์ เห็นถึงโอกาสและรู้จุดดี จุดเด่นตลอดจนจุดอ่อนในการดำเนินงานไปสู่จุดหมายที่ต้องการขององค์การในอนาคต เป็นการค้นหากลยุทธ์โดยหลักการ มองกว้าง เห็นไกล รอบคอบ ตามหลักการกำหนดกลยุทธ์ในแบบต่าง ๆ เช่น กลยุทธ์ที่มุ่งหา S สูง – O สูง, S สูง – T ต่ำ,

W ต่ำ – O สูง และ W ต่ำ – T ต่ำ กลยุทธ์เชิงรุก กลยุทธ์เพื่อความเจริญก้าวหน้า (Growth Strategy) กลยุทธ์แบบคงที่ (Stability Strategy) กลยุทธ์แบบตัดทอนป้องกัน (Retrenchment and Defense Strategy) กลยุทธ์การตั้งราคา-การขาย กลยุทธ์การแข่งขัน กลยุทธ์การเป็นผู้นำ กลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์และบริการ กลยุทธ์การจำกัดขอบเขตปฏิบัติการ เป็นต้น
อ้างอิง
http://www.vcharkarn.com/vcafe/133036

Love Me Love My Cat.....!!! กล่าวว่า...

สัมมนาปัญหาการจัดการ:นางสาวสุกัญญา ปราณีดุดสี การจัดการทั่วไป ปี4 รหัส 5210125401006

ทฤษฎีการบริหารการจัดการเชิงระบบ
ทฤษฎีการบริหารการจัดการเชิงระบบ มีรากฐานมาจากทฤษฏีระบบโดยทั่วไปของ Ludwig von Bertalanffy ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านฟิสิกส์และชีววิทยา รูปแบบของระบบvon Bertalanffy มี 2 แบบคือ
1.ระบบปิด ซึ่งไม่ได้รับอิทธิพลและไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รายรอบระบบนั้นๆ โดยส่วนใหญ่แล้วระบบปิดเป็นเครื่องจักรกลที่มีการเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมที่กำหนดไว้ตายตัวก่อนล่วงหน้าแล้ว โดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
2.ระบบเปิด จะมีปฎิกิริยาโต้ตอบกับสิ่งแวดล้อมของระบบอย่างต่อเนื่อง พืชเป็นตัวอย่างหนึ่งของระบบเปิด การมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องจะมีผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่และอนาคตของพืชนั้นๆ สิ่งแวดล้อมจะเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าพืชนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่
ระบบและองค์รวม แนวคิดขององค์รวมของระบบมีความสำคัญมากในการวิเคราะห์ระบบโดยทั่วไป
L.Thomas Hopkins ได้แนะแนวทางในการวิเคราะห์เชิงระบบ 6 ประการ ดังนี้
1.องค์รวมของระบบควรเป็นหลักสำคัญของการวิเคราะห์
2.การบูรณาการเป็นปัจจัยหลักในการวิเคราะห์องค์รวมของระบบ
3.การปรับเปลี่ยนแต่ละองค์ประกอบควรพิจารณาเปรียบเทียบถึงผลกระทบต่อองค์ประกอบอื่นๆ
4.แต่ละองค์ประกอบมีบทบาทที่ต้องปฏิบัติเพื่อองค์รวมสามารถบรรลุเป้าหมายของตนได้
5.ตำแหน่งขององค์ประกอบย่อยภาขยในองค์รวมจะบ่งบอกถึงคุณลักษณะและภาระหน้าที่ของ องค์ประกอบย่อยนั้นๆ
6.การวิเคราะห์ทั้งหมดจะเริ่มต้นที่องค์รวม องค์ประกอบย่อยอื่นๆ และความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ควรพัฒนาให้เหมาะสมกับเป้าหมายขององค์รวมให้มากที่สุด

ทฤษฏีการบริหารจัดการเชิงระบบมีรากฐานบนทฤษฏีระบบ เราจึงควรให้ความสำคัญของการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ จากนั้นเราจึงจะมาศึกษาถึงองค์ประกอบต่างๆ ของระบบและข้อมูลที่สามารถประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห็ระบบได้

อ้างอิง: ชื่อหนังสือ การจัดการสมัยใหม่ (Modern Management:9ed)
ผู้แต่ง Samuel C.Certo
สำนักพิมพ์ บริษัท เพียร์สัน เอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า จำกัด
ปีที่พิมพ์ 2552