หน้าเว็บ

นายภาสัณห์ ใจดี รหัส 5210125401024 เอกการจัดการทั่วไป



ผู้นำต้นแบบ

เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง ได้รับการจัดอันดับเป็นเศรษฐีอันดับ 307 ของโลก และอันดับ 3 ของประเทศไทย (อันดับ 1 นายเฉลียว อยู่วิทยาเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง และอันดับ 2 นายธนินท์ เจียรวนนท์เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์) จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์บ นายเจริญสร้างธุรกิจเบียร์ช้างได้ด้วยตนเอง โดยบิดาเป็นพ่อค้าขายหอยทอดในกรุงเทพมหานคร แต่ในปัจจุบันได้เป็นเศรษฐีของเมืองไทยในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีธุรกิจแตกแขนงไปมากมาย อาทิ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า สนามกอล์ฟเลควิว โดยในปี พ.ศ. 2548 ได้มีโครงการขยายกิจการไปสู่ต่างประเทศ และเข้าเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน ในพรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของกิจการ โรงแรม พลาซ่า แอททินี่ ในกรุงเทพมหานคร และในนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา

สมรสแล้วกับ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี มีบุตร 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คนชื่อ อาทินันท์ วัลลภา ฐาปน ฐาปนี และ ปณต (ข้อมูล พ.ศ. 2548)



ประวัติ

นายเจริญมีชื่อจีนว่า “โซวเคียกเม้ง” (苏旭明, เคียกเม้ง แซ่โซว) เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2487 บิดามีอาชีพขายหอยทอด ใช้เวลาเรียนถึง 8 ปีเพื่อให้จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเผยอิง เนื่องจากระหว่างเรียนต้องทำงาน หาเลี้ยงชีพด้วยการขายของเล็กๆ น้อยๆ เมื่อเขาอายุ 11 ปี ได้รับจ้างเข็นรถส่งสินค้า ย่านสำเพ็ง ทรงวาด จากนั้นก็ขยับเป็นพ่อค้าหาบของขาย

เจริญ สิริวัฒนาภักดี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโทจากคณะเดียวกัน นอกจากนี้แล้วนายเจริญ ยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (พ.ศ. 2553)



ช่วงเริ่มเข้าสู่ธุรกิจสุรา

ปี พ.ศ. 2504 ได้เป็นลูกจ้างของชาวจีนที่อพยพมาอยู่เมืองไทยคนหนึ่ง ในบริษัท "ย่งฮะเส็ง" และห้างหุ้นส่วนจำกัด "แพนอินเตอร์" ที่จัดส่งสินค้าให้ "โรงงานสุราบางยี่ขัน" นำมาสู่การรู้จักกับนาย "จุล กาญจนลักษณ์" ผู้เชี่ยวชาญการปรุงรสสุรา "แม่โขง"

เจ้าสัวเข้าสู่วงการธุรกิจสุราด้วยการชวนของเถลิง เหล่าจินดา แห่งกลุ่มสุราทิพย์ ผู้ซึ่งต่อมาเป็นปรปักษ์กับตระกูลเตชะไพบูลย์ ซึ่งถือเป็นเจ้าพ่อในวงการนี้มายาวนาน ในปี 2525 เมื่อเถลิงผ่านการต่อสู้อย่างโชกโชน ก็เหนื่อยล้าลาจากวงการไป เจริญก็เข้าสวมแทนและสามารถเอาชนะกลุ่มเตชะไพบูลย์ โดยเข้ายึดครองกลุ่มสุรามหาราษฎร อย่างสิ้นเชิงในปี 2530 ในขณะเดียวกันนั้น พ่อตาของคุณเจริญ(นายกึ้งจู แซ่จิว) ก็เข้ายึดกิจการบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์มหาธนกิจจากตระกูลเตชะไพบูลย์อีกสายหนึ่ง ต่อมาเมื่อเตชะไพบูลย์สายนั้น (โคโร่-คำรณ เตชะไพบูลย์) มีปัญหาในการบริหารธนาคารมหานคร เจริญและพ่อตา ซึ่ง มีสองขาทางธุรกิจที่หนุนเนื่องกัน (ธุรกิจสุราและการเงิน) และกำลังเริ่มยิ่งใหญ่ในปี 2530 ก็เข้ายึดครองกิจการ การเงิน ทั้งธนาคารและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไว้ ทั้งๆ ที่ธุรกิจการธนาคารสำหรับ สังคมไทย ถูกปิดตายสำหรับคนนอกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง จากจุดนี้จึงถือว่า เจริญ สิริวัฒนภักดี สร้างอาณาจักรที่มั่นคงและโหมโรงการขยายตัวอย่างเชี่ยวกรากในเวลาจากนั้นมา



ขยายสู่ธุรกิจเบียร์

ก่อนที่จะมาเป็นคนรวยที่สุดของประเทศไทย มีความยากจนมากแต่ท่านชอบอาชีพนักขายเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ต่อสู้มาจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจสุราดั้งเดิม แม้ว่าระบบสัมปทานแบบเดิมกำลังจะปิดฉากลง แต่เขาก็สามารถใช้เครือข่ายการค้าแบบเดิม ซึ่งฝังรากในตลาดล่างกับเครือข่ายการค้า ในชุมชนซึ่งถือว่าเป็นเครือข่ายการค้าที่เข้มแข็งที่สุดเครือข่ายหนึ่งในสังคมไทย ภายใต้ระบบเอเย่นต์ และระบบขายพ่วง (สุราพ่วงเบียร์ สุราพ่วงโซดา) ที่เข้มแข็งนั้นเดินหน้าธุรกิจต่อไปจากนั้นก็ต่อเนื่องเข้าสู่ธุรกิจเบียร์ (เบียร์ช้าง และเบียร์คาร์ลสเบอร์ก) ซึ่ง เสริมกับค้าสุราได้อย่างกลมกลืน ภายใต้โครงสร้างการแข่งขันที่ดุเดือดของธุรกิจนี้ นำเอาโมเดลการค้าสุรามาทำให้ความสามารถในการแข่งขันอยู่ได้ ซึ่งถือว่าเบียร์ช้าง เป็นคู่แข่งทางการตลาดของเบียร์สิงห์โดยตรง

ปี พ.ศ. 2537 ได้เข้าซื้อกิจการกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล ที่มีโรงแรมในเครือจำนวนมากจากนายอากร ฮุนตระกูล และจากนั้นก็ขยายธุรกิจอย่างไม่เคยหยุดยั้ง จนกระทั่งถึงปัจจุบัน



ตำแหน่งทางธุรกิจในปัจจุบัน

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน)

ประธานกลุ่มบริษัท สุรามหาราษฎร จำกัด

ประธานกรรมการบริหาร บริษัททีซีซี กรุ๊ป



ลำดับเศรษฐีของนายเจริญ

เศรษฐีของโลกอันดับ 194 ในปี พ.ศ. 2548

เศรษฐีของประเทศไทยอันดับ 2 ในปี พ.ศ. 2554

ประธานบริษัท มิลเลียไลฟ์ อินชัวรัส์ จำกัด มหาชน



เครื่องราชอิสริยาภรณ์

มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก

มหาวชิรมงกุฎ

ปฐมดิเรกคุณาภรณ์

ทุติยจุลจอมเกล้า



อ้างอิง

เจริญ สิริวัฒนภักดี .(ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.thaibev.com .

๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

นางสาวณัชนิตา ผาผาย เอกการจัดการทั่วไป
รหัส048 ปี4 หมู่1

เอก ณกรณ์ กรณ์หิรัญ เจ้าของวุฒิ-ศักดิ์ คลีนิก นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่เขาบอกว่าตัวเองเริ่มต้นมาจากติดลบ
ณกรณ์ กรณ์หิรัญ ได้บอกเล่าว่าฐานะพอมีกินมีใช้ จึงได้ส่งตนเองเข้ามาศึกษาในกรุงเทพฯ โดยส่วนตัวเป็นคนมีหัวธุรกิจ ชอบทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้กับตัวเอง ถึงขั้นเป็นเศรษฐีเงินกู้เลยทีเดียว เนื่องจากไปหยิบยืมเงินของที่บ้านมาปล่อยกู้ 2 ล้านบาท จนรายได้งอกเงยไปถึง 4-5 ล้านบาท แต่แล้ววันหนึ่ง ณกรณ์ กรณ์หิรัญ ก็มาถึงคราวพลั้งพลาด เมื่อเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเท่าไร ตนก็ไม่ทันระวัง ปล่อยกู้ให้ลูกหนี้รายหนึ่งไป แล้วโดนโกงจนหมดตัว ถึงขั้นรถที่เพิ่งซื้อมาไม่เท่าไรก็โดนยึดไปด้วย เพราะไม่มีเงินไปชำระค่าผ่อน
หลังจากนั้นไม่นาน มีเพื่อนคนหนึ่งของ ณกรณ์ กรณ์หิรัญ สนใจอยากจะเปิดคลินิกความงาม จึงมาชักชวนเขามาร่วมทุนเพื่อเปิดร้าน วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ย่านงามวงศ์วาน โดยตั้งชื่อคลินิกตามชื่อแพทย์ที่มาร่วมหุ้นอีกคน และเป็นคนดูแลระบบการรักษาความงามทั้งหมดของคลินิก

และเมื่อ วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ขยายสาขาไปหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ ณกรณ์ กรณ์หิรัญ จึงได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เจ้าตัวก็ถ่อมตัวพร้อมแจกแจงว่า อายุ 30 กว่าแล้ว ถือว่ามาครึ่งทางของชีวิตแล้ว นี่เป็นเพียงก้าวขึ้นบันไดได้สำเร็จอีกขั้นหนึ่ง ชีวิตไม่มีคำว่าประสบความสำเร็จสุด ๆ เราต้องเดินหน้าไปเรื่อย ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายหนึ่ง แล้วก้าวต่อไปเพื่อบรรลุอีกเป้าหมายหนึ่งเท่านั้นเอง